
กรมส่งเสริมการเกษตร ขอเชิญร่วมกิจกรรม
“ภาพเล่าเรื่อง” เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตร ครบรอบ 58 ปี
กติกา :
โพสภาพหรือเล่าเรื่องราวแห่งความภูมิใจบนสื่อสังคมออนไลน์ของคุณ เกี่ยวกับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจ ให้เพื่อนร่วมงานทั่วประเทศ
แชร์โพสเป็นสาธารณะ
…ร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป…
https://www.facebook.com/photo?fbid=1113221720938954&set=a.578254184435713&locale=th_TH
ประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติตามมาตรา 52 และ 53 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542











เตือนการระบาดศัตรูพืช “โรคขอบใบแห้ง”
เชื้อสาเหตุ : เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas oryzae pv. oryzae
โรคนี้เกิดได้ตั้งแต่ระยะกล้าจนถึงระยะออกรวง
อาการเริ่มแรกมีลักษณะที่ขอบใบล่าง แล้วจะขยายเป็นทางสีเหลือง ยาวตามใบข้าว ใบที่เป็นโรคจะแห้งเร็ว และจางลงเป็นสีเทา
แผลมีหยดน้ำสีครีม (bacterial ooze) คล้ายยางสน มีลักษณะกลม ขนาดเท่าหัวเข็มหมุด ต่อมาเป็นสีน้ำตาล และหลุดลอยไปตามลม น้ำ หรือฝน
หากอาการรุนแรงต้นข้าวจะเหี่ยวเฉา และแห้งตายทั้งต้นโดยรวดเร็ว เรียกว่า ครีเสก (kresek)
แพร่ระบาดได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสัมพัทธ์สูง เช่น ฝนตก ลมพัดแรง หมอกหนา เป็นต้น
คำแนะนำในการป้องกันกำจัด
หมั่นสำรวจแปลงข้าวของตนเองอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ใช้พันธุ์ข้าวต้านทานโรคขอบใบแห้ง เช่น สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 60 สุพรรณบุรี 90 กข 7 เป็นต้น
ในดินที่อุดมสมบูรณ์ไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนปริมาณมาก
เมื่อเริ่มพบอาการโรคขอบใบแห้ง พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เช่น ซิงค์ไทอะโซล คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ ไตรเบสิคคอปเปอร์ซัลเฟต เป็นต้น อัตราคำแนะนำในฉลากบนภาชนะบรรจุ

เตือนการระบาดศัตรูพืช “โรคใบสีส้ม”
ลักษณะอาการ
โรคนี้เป็นได้ทั้งระยะกล้าแตกกอ และตั้งท้อง จะแสดงอาการหลังได้รับเชื้อ 15-20 วัน
อาการเริ่มต้น ใบข้าวจะเริ่มมีสีเหลืองสลับเขียว ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เริ่มจากปลายใบเข้าหาโคนใบ
ต้นที่เป็นโรคจะเตี้ยแคระแกร็น ใบใหม่ที่โผล่ออกมามีตำแหน่งต่ำกว่าข้อต่อใบล่าสุด
ถ้าเป็นรุนแรงในระยะต้นกล้า ต้นข้าวอาจตายได้
แพร่ระบาดได้โดยมี “เพลี้ยจักจั่นสีเขียว” เป็นแมลงพาหะนำโรค





ข้อมูลชัด รัฐช่วยตรง จุดเริ่มต้นอยู่ที่การขึ้นทะเบียนเกษตรกร
